Alaska

         หากพูดถึงสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก อลาสก้า 'พรมแดนอันไกลพ้น' นี้ ต้องติดอันดับท็อป 5 อย่างแน่นอน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลายและสวยงาม ทั้งภูเขา ธารน้ำแข็ง ป่าอันสมบูรณ์ และสัตว์ป่า การเดินทางไปอลาสก้านั้นค่อนข้างลำบาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเล ภูเขา ธารน้ำแข็ง ป่าไม้ หรือไม่ก็อ่าวแคบๆไม่มีถนนเข้าถึง หลายเมืองสำคัญแทรกตัวอยู่ท่ามกลางเทือกเขา ถ้าอยากดูธรรมชาติอันมหัศจรรย์เหล่านี้แบบเต็มตาและใกล้ชิดที่สุดต้องเดินทางไปกับเรือสำราญ ที่กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตของนักเดินทางนั่นเอง

      การล่องเรือสำราญในเส้นทางอลาสก้าเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ให้ท่านได้สัมผัสกับธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การการนั่งเรือชมปลาวาฬ นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมธารน้ำแข็ง นั่งสุนัขลากเลื่อน เป็นต้น ความสวยงามของอลาสก้าแตกต่างกันในแต่ละเดือน แต่ช่วงฤดูร้อน คือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในดินแดนอลาสก้า 

    อุทยานแห่งชาติเกลเชอร์เบย์ (Glacier Bay National Park)

    อุทยานแห่งชาติเกลเชอร์เบย์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในการมาเยือนอลาสก้า เราจะได้สัมผัสกับธารน้ำแข็งที่สวยงาม ซึ่งถูกอนุรักษ์เอาไว้ในเขตอุทยานแห่งชาติที่กินพื้นที่กว่า 13,350 ตร.กิโลเมตร

    ธารน้ำแข็งใหญ่ 6 แห่งไหลจากเทือกเขาสูงลงสู่อ่าว และปริแตกออกจนส่งเอาก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ให้ลอยตามน้ำออกไปอย่างน่าทึ่ง เหมาะให้เป็นที่อาศัยของสัตว์อย่าง วาฬหลังค่อม โลมา และแมวน้ำ ซึ่งเรามักจะพบเห็นกันได้จากบนเรือสำราญของเรา

      เมืองสแก๊กเวย์ (Skagway)

    เมืองสแก๊กเวย์ เมืองที่ล้อมรอบไปด้วยยอดเขาสูงมากมาย ช่วงปึี 2440 นักแสวงโชคนับพันๆคน ต่างมุ่งหน้าเข้าไปยัง ทุ่งทองโคลนไดค์จำเป็นต้องเข้ามาที่สแก๊กเวย์เพราะเป็๋นทางผ่านที่ดีที่สุด หลายปีต่อมาเมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้เป็น อุทยานประวัติศาสตร์ยุคตื่นทองแห่งโคลนไดค์ ที่รวบรวมอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนร้านค้าต่างๆไว้มากมาย ท่านสามารถนั่งรถไฟสายไวท์พาสแอนด์ยูคอน ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านช่องเขาไวท์พาส และปากแม่น้ำยูคอน ซึ่งเป็นแหล่งแร่ทองคำ 

    เมืองจูโน (Juneau)

    เมืองจูโน เป็นเมืองหลวงของรัฐอลาสก้า มีประชากรเพียง 30,000 คน แต่ที่นี่เป็นแหล่งท่่องเที่ยวที่ถ้านับจริงๆ อาจจะมีผู้มาเยือนสูงถึง 700,000 คนต่อปึในระหว่างฤดูร้อน คือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกันยายน เมืองจูโน่แทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างภูเขาสูงชันกับช่องแคบแกสติโน ส่วนย่านใจกลางเมืองก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างตึกสูงทันสมัยกับบ้านเรือนไม้เก่าอันทรางคุณค่า 

    เมืองเค็ทชิแกน (Ketchikan)

 เมืองเค็ทชิแกนทอดตัวอยู่ในช่องแคบทองแกส โอบล้อมไปด้วยป่าเขา เมืองนี้มักจะเป็นเมืองแรกที่เรือสำราญทุกลำจะแวะเที่ยบท่าเมื่อจะเดินทางมุ่งหน้าสู่อลาสก้าในเขตอินไซด์พาสเสจ เรือสำราญจะจอดเทียบท่าอยู่แทบจะในใจกลางเมือง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารลงจากเรือไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เช่นที่แหล่งท่องเที่ยวถนนครีก ซึ่งเมื่อร้อยปีก่อนเป็นแหล่งรวมผู้คนของเมือง จนเดี๋ยวนี้ชาวเมืองยังเก็บอนุรักษ์บ้านไม้ที่ปลูกตามแนวตลิ่งริมธารสีสันสวยงาม ตัวลำธารข้างล่างเป็นแหล่งปลาแซลมอนที่สำคัญแห่งหนึ่งของอลาสก้า

   เทรซี่อาร์ม ฟยอร์ด (Tracy Arm Fjord)

    เทรซี่อาร์ม ฟยอร์ด เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาทีละเล็ก ทีละน้อย จนเกิดการเว้าแหว่งลึกลงไป พอน้ำแข็งละลายทำให้ไหลลงมาตามช่องทางเดินของน้ำ สองข้างทางถูกล้อมรอบไปด้วยหน้าผาสูงชัน ซึ่งเป็นภาพที่สวยงาม 

   ภายในดินแดนอลาสก้าแห่งนี้ท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมต่างๆ ได้ อาทิ การเดินป่า พายเรือคายัค ล่องแก่ง ตกปลา หรือชมสัตว์ป่านานาชนิด

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-235-1133 / 06-3635-5987
Email : arcadiacruiseinfo@gmail.com
Line Id : @arcadiacruisecente
Facebook : Arcadia Cruise Center

หรือคลิ๊กที่รูปภาพด้านล่าง